จุรินทร์ เผยเตรียมเข้าหารือประเด็น ถุงมือใช้แล้ว ครั้งแรกในวันพรุ่งนี้ เชื่อความจริงจะฟื้นภาพลักษณ์ประเทศไทย นาย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์หลังจากที่ตนได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ตรวจสอบกรณีที่สำนักข่าว CNN รายงานว่ามีถุงมือใช้แล้วและถุงมือต่ำกว่ามาตรฐานจากประเทศไทยถูกส่งไปยังประเทศสหรัฐอเมริกากว่า 10 ล้านชิ้น
โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายกระทรวงร่วมกัน
และมีอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเป็นเลขานุการ ซึ่งตนจะได้นัดประชุมในวันที่ 27 ต.ค. เวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อนับหนึ่งถึงที่มาของข้อเท็จจริง พร้อมทั้งที่มาที่ไปว่าเป็นอย่างไร และจะต้องดำเนินการต่อไปอย่างไร ทั้งนี้ไม่ได้มีกรอบเวลาในการดำเนินการ แต่ตนจะเร่งดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน ทั้งนี้จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมเป็นกรรมการหาข้อเท็จจริงดังกล่าวด้วย
“พรุ่งนี้ได้เริ่มต้น ยังไม่อยากพูดอะไรไปก่อน พรุ่งนี้ถ้ามีความคืบหน้า หรือมีอะไรที่จะบอกได้ก็พร้อมจะชี้แจงให้ทราบ เบื้องต้นเข้าใจว่าเป็นการกระทำผิดกฎหมายของผู้ที่นำสิ่งผิดกฎหมายออกไปนอกประเทศ คำว่าผิดกฎหมายก็คือ ถุงมือยางซึ่งเป็นเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ใช้แล้วนี้จะส่งออกไปมันก็มีปัญหาอยู่แล้ว แต่รายละเอียดยังไม่อยากพูดไปก่อน เพราะต้องให้กรรมการทั้งหมดมาให้ข้อมูลก่อน ซึ่งหน่วยงานทั้งหมดก็อยู่ในกรรมการชุดนี้อยู่แล้ว” รมว.พาณิชย์ กล่าว
ส่วนที่ผู้สื่อข่าวถามว่าเรื่องนี้จะกระทบภาพลักษณ์ของประเทศหรือไม่นั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ถ้าเราตรวจสอบออกมาแล้ว หากข้อเท็จจริงออกมาอย่างไร มีความชัดเจน มันก็จะเป็นการช่วยเพิ่มภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศด้วยว่าอะไรที่ไม่ถูกต้องแล้วเราไม่ปล่อยให้ผ่านเลยไป และเราไม่สนับสนุน และจัดการตามกฎหมาย มันจะเป็นบวกด้วยซ้ำถ้าเราทำ และทุกอย่างชัดเจน
“คำสั่งก็ให้อำนาจ และเชิญผู้เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงได้ แต่ใจผมนั้น คิดว่าถ้าเรื่องไม่ถึงกับซับซ้อนอะไรก็จะรีบสรุปโดยเร็ว ยกเว้นมันซับซ้อน มีรายละเอียดที่เยอะมากจนต้องใช้เวลานาน อันนั้นก็อีกกรณีหนึ่ง ขอให้เริ่มพรุ่งนี้ก่อน เพราะถ้าไม่เริ่มพรุ่งนี้จะตอบอะไรต่อไปไม่ได้” นายจุรินทร์ กล่าว
ด่วน! เลื่อนอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดี ‘ชัยภูมิ ป่าแส’
ศาลแพ่ง เลื่อนอ่านคำพิพากษา กรณีทหารวิสามัญ ชัยภูมิ ป่าแส เป็น 26 ม.ค. 2565 อ้างศาลยังทำคำพิพากษาไม่แล้วเสร็จ ศาลแพ่ง ถนนรัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ในคดีหมายเลขดำ พ2591/2562 ที่ นาปอย ป่าแส มารดาของ ชัยภูมิ ป่าแส เยาวชนสิทธิมนุษยชน ชาวลาหู่ และเป็นโจทก์ฟ้องกองทัพบกเป็นจำเลย ให้ชดใช้ทางละเมิด นักกิจกรรม จากกรณีที่ทหาร 2 นาย สังกัดกองทัพบก ได้วิสามัญฆาตกรรมนายชัยภูมิ ที่บริเวณด่านรินหลวง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงปี 2543
คดีนี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2563 ให้ยกฟ้อง โดยพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์จำเลยแล้ว พยานโจทก์นำสืบในทำนองเดียวกัน ชัยภูมิ ผู้ตายมีผลการเรียนดี เป็นนักกิจกรรมจิตอาสา เคยเป็นประธานนักเรียน ชอบช่วยเหลือครูและเพื่อน มีความกตัญญู ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนจำเลยไม่รู้จักผู้ตาย
โดยทหารพยานจำเลยเบิกความขณะเกิดเหตุตรวจค้นรถ ผู้ตายไม่ยินยอมให้เปิดฝาหม้อไส้กรองอากาศ เมื่อเปิดพบยาบ้า 2,800 เม็ด ผู้ตายหลบหนี ใช้ระเบิดขว้าง ทหารจึงหยิบปืน M16 ยิงที่แขนซ้ายเพื่อหยุดการกระทำกับเจ้าหน้าที่ พยานจำเลยแจ้งพบบัญชีผู้ตายมีการเคลื่อนไหวเชื่อมโยงเรื่องยาเสพติด บันทึกการโทรศัพท์เกี่ยวกับผู้ต้องหาคดียาเสพติด พยานจำเลยที่เป็นเพื่อนนักเรียนเชื่อว่าจำเลยน่าจะรู้เรื่องยาเสพติด ประจักษ์พยานไม่พบพิรุธสงสัย พลทหารยิงผู้ตายเป็นการกระทำเพื่อป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ จึงไม่ถือว่าเป็นการละเมิดต่อโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
นัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์วันนี้ มีรัษฎา มนูรัษฎา ทนายความ พร้อมทีมทนายสิทธิมนุษยชนและภาคีเครือข่ายครอบครัวเดินทางมาศาล โดยวันนี้ครอบครัวชัยภูมิไม่สามารถเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่เพื่อเข้าร่วมรับฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในครั้งนี้ได้ เนื่องจากสถานการณ์โควิด
อย่างไรก็ตามในเวลาประมาณ 10.00 น. นายรัษฎา ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้ารับฟังคำพิพากษาของศาล ว่า ศาลได้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันที่ 26 ม.ค. 2565 เวลา 08.30 น. เนื่องจากศาลยังทำคำพิพากษาไม่แล้วเสร็จ
ขณะนี้มียาฟาวิพิราเวียร์ 26.2 ล้านเม็ด ยาเรมเดซิเวียร์ 74,284 ขวด และเวชภัณฑ์ต่าง ๆ ภาพรวมคงคลังประมาณ 3-6 เดือน และจัดหายาและเวชภัณฑ์เพิ่มเติมต่อเนื่อง ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังกำชับให้หน่วยความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ลาดตระเวร เฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนแบบเข้มงวดสูงสุด เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบ รวมทั้งจับกุมแรงงานข้ามชาติที่เดินทางเข้ามาอย่างผิดกฎหมายด้วย
ขณะเดียวกัน ก็เร่งกระจายและฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายตามเกณท์ทุกจังหวัดเพื่อให้ภูมิคุ้มกันหมู่ภายในพื้นที่ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า นายกรัฐมนตรีย้ำมาตลอดว่า การเปิดประเทศแบบเป็นขั้นตอน ตามช่วงเวลา นี้ คำนึงสถานการณ์การแพร่ระบาดต้องทรงตัว ขีดความสามารถและความพร้อมของระบบสาธารณสุขไทย ทั้งการป้องกัน ควบคุมและรักษา และนำร่องในพื้นที่/จังหวัดที่มีความพร้อมก่อน
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป